ตุรกี ‼ ประเทศเป้าหมายในใจของหลายๆคน

Last updated: 1 ต.ค. 2567  |  1668 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตุรกี ‼ ประเทศเป้าหมายในใจของหลายๆคน

ตุรกี ‼ ประเทศเป้าหมายในใจของหลายๆคน เป็นประเทศที่ควรค่าแก่การมาสักครั้ง มั่นใจเลยว่าเพื่อนๆก็จะได้ความประทับใจกลับบ้านเต็มอิ่ม ไม่แน่อาจมีมาซ้ำเหมือนหลายคนก็เป็นได้ เพราะตุรกีมีของดีอันแน่นอยู่ทั่วประเทศ

แต่จะไปเที่ยวตุรกีทั้งที ก็มีทัวร์มากมายให้เลือก รีวิวนี้ก็ขอรีวิวทริปการเดินทางไปตุรกี กับโปรแกรมทัวร์เกร๋ๆที่ชื่อ HOP to Turkey  โปรแกรมดีๆ ที่อยากให้เทียบกับโปรแกรมอื่นก่อตัดสินใจค่ะ  

 

ทริปนี้ เราเดินทางกัน 8 วัน ถ้าตัดวันเดินทางออกไปก็จะมีเวลาเที่ยวจริงๆ 6 วัน เพื่อให้มีเวลาเที่ยวได้เต็มที่ เราเลยเลือกบินภายในประเทศ 2 ครั้ง จะได้มีเวลาอยู่แต่ละที่นานๆ

บอกก่อนว่า ทริปนี้ เราเลือกเที่ยว 5 เมืองเท่านั้น (เอฟฟิซุส, ปามุคคาเล่, คอนย่า, คัปปาโดเกีย, อีสตัลบูล) เพราะในฐานะหัวหน้าทัวร์ที่ไปมาแล้วหลายครั้ง จากฟีดแบคลูกทัวร์ โหวดให้ 5 เมืองที่เลือกเป็นที่สุดแล้วของตุรกี เราเอามาออกแบบเส้นทางก็ลงตัวพอดีค่ะ 

เราเริ่มบินจากกรุงทพ มาถึงอิสตัลบูลปุ๊ป เราก็นั่งเครื่องบินชิลๆ ต่อไปเมืองอิสเมียร์อีก 1 ชม แล้วก็นั่งรถต่ออีกนิดเดียวก็จะถึงเมืองโบราณเอฟฟิซุส พอมาถึงเมืองนี้บอกได้เลยเดียว มันมหัศจรรย์มาก

เมืองนี้อายุมากกว่าสองพันปีแล้วตั้งแต่ยุคก่อนศาสคริสต์ แต่ในหลายๆจุดของเมืองนี้ยังสมบูรณ์มากๆ เรียกได้ว่าเป็นเมืองโรมันที่สมบูรณ์ที่สุดที่หนึ่งของโลกเลยค่ะ เราเดินชมสถานที่พร้อมฟังเรื่องราวจากไกด์ ก็จะจินตนาการบรรยากาศสมัยอดีตได้แบบสนุกๆค่ะ

นอกจากความสวยงามของเมืองแล้ว อีกอย่างที่เป็นสีสันของเมืองนี้ เป็นเมืองที่มีน้องแมวเยอะมากกก แถมน้องเค้ายังโพสท่าให้ถ่ายรูปเก่งกว่าเราอีก

จากเมือง เอฟฟิซุส เราเดินทางต่อมายังเมือง ปามุคคาเล่ หนึ่งในเมืองไฮไลท์ของตุรกีเค้าแหละค่ะ ที่นี่เราจะได้เห็นภูเขาสีขาวใหญ่มหึมาตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างน่าประหลาด พอขึ้นไปข้างบนจะพบกับธารน้ำสีฟ้าใส ไหลเป็นชั้นๆ ลงจากบนภูเขาไปยังเมืองข้างล่าง ใครอยากแช่น้ำแร่อุ่นๆ ก็ไปเดินย่ำน้ำให้อุ่นเท้า และอย่าลืมติดกล้องไปเก็ยรูปสวยๆ ถ้าให้ดีแนะนำว่าใส่ชุดสีจัดๆ ไปถ่ายรูปจะสวยมาก คืนแรกเราพักกันที่เมืองปามุคคาเล่ ที่โรงแรมมีย่อน้ำแร่ให้แช่ สบายมากๆเลยค่ะ

วันต่อมา เราออกจากปามุคคาเล่ช่วงเช้า ปลายทางของเราคือเมืองคัปปาโดเกีย แต่กว่าจะถึงคัปปาโดเกีย เราก็จะแวะเมืองสำคัญๆ และสถานที่เที่ยวย้อนรอยกองคาราวานโบราณไปตลอดทาง เมืองแรกที่เราแวะคือ เมืองคอนย่า เมืองแห่งนักบุญ กับวิถีสุดสโลว์ไลฟ์ ที่นี่จะพบเห็นบ้านเมืองสไตล์ออตโตมันสุดคลาสสิค และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า ต้นกำเนิดการทำสมาธิแบหมุนวน ที่เราจะคุ้นๆ กับคนใส่ชุดสีขาว สวมหมวกสีแดงมาร่ายรำ หมุนวน อ่ะ!ใครอยากรู้ที่มา ไว้มาที่ตุรกีเราจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ


พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า จำลองบรรยากาศการเรียนการสอน และการใช้ชีวิตของเหล่านักพรต


หลังจากที่คอนย่า เราทางอาหารเที่ยงแล้วก็เดินทางต่ออีกสักพัก ก็วะแวะชม คาราวานซารายที่นี้เคยเป็นโรงแรมของพ่อค้านัก บนเส้นทางสายไหม


และในที่สุดเราก็มาถึง คัปปาโดเกีย เมืองนี้คือเมืองที่ทุกคนอยากมามากที่สุดของตุรกี เพราะเป็นเมืองที่จะได้ขึ้นบอลลูนชมเมืองที่สวยงามแปลกตาแห่งนี้ 

ฉายาเมืองนี้ก็มีหลากหลาย บางคนก็ก็ว่าเป็นหุบเขาจอมปลวก บ้างก็ว่าเมืองหุบเขาแห่งเทพนิยาย บางคนก็บอกเป็นดินแดนปล่องภูเขาไฟ แล้วเพื่อนๆดูแล้วคิดว่าฉายาไหนเหมาะกับเมืองนี้ดี

ที่นี่เราจะได้ไปชมเมืองมนุษย์ถ้าสมัยก่อน เมืองใต้ดิน เยี่ยมชมบ้านชาวถ้ำที่ยังอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และทุกๆ วันเราจะมีลุ้นถ่ายรูปกับเมืองที่เต็มไปด้วยบอลลูน หรือขึ้นบอลลูนไปชมเมืองในมุมสูงที่ต้องบอกว่าต้องลุ้น!!! เพราะบอลลูนจะอนุญาตทำการบินเมื่อสภาพอากาศในวันนั้นๆดีเท่านั้น โปรแกรมนี้เลยไม่ขอรวมค่าบอลลูนไว้ค่ะ ถ้าขึ้นได้ เราพาขึ้นแน่นอนนนน

เราพักที่คัปปาโดเกียกัน 2 คืน เพราะฉะนั้นเราก็จะมีเวลาเที่ยวที่นี้แบบเต็มอิ่มสุดๆ ที่เมืองนี้เค้าเรียกกันอีกอย่างว่าเมืองถ้ำ ถ้าจะให้อินมากๆ เราก็ต้องมาพักกันที่โรงแรมถ้ำเลยค่ะ

วิวบริเวณ หน้าโรงแรม

อย่างที่บอก บอลลูนจะขึ้นได้เป็นบางวัน ถ้าเกิดวันนั้นโชคไม่เข้าข้างลมแรง บอลลูนขึ้นไม่ได้ เรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่อยากแนะนำ คือ...

การนั่งรถ Jeep Safari ต้องบอกว่าทั้งมันส์ ทั้งสวย ทั้งเสียว ที่ว่าเสียวนี่คือ พ่อคนขับรถจีฟนี่แหละ เค้าจะชอบแกล้งขับให้หวาดเสียว เลาะไปตามปล่องต่างๆ แล้วก็พาไปเราแวะถ่ายรูปตามจุดชมวิว

 

Love Valley คือหินมันเป็นแท่งตรงๆงี้ แล้วคนที่นี้ชอบพูดติดตลกว่า ยูววว ที่มันเรียกว่า Love Vallay เพราะมันเหมือนไอ้เจ้าที่แท่งที่เอาไว้เมคเลิฟฟฟ 

อร๊ายยย 18 + ไปอีกจร้าาาา


Evil Eye ดวงตาสีฟ้า ดวงตาปีศาจ ที่หุบเขานกพิราบ 
คนที่นี่เค้าเชื่อว่ามีสิ่งนี้ติดไว้ จะช่วยป้องกันสิ่งช่วยร้ายและสิ่งไม่ดีได้


หลังจากเต็มอิ่มกันที่คัปปาโดเกีย เราบินกลับมาที่เมือง อิสตัลบูล 
เมืองศิวิไลซ์ ที่มีความอินดี้ และคลาสสิคไปพร้อมๆกัน แม้อิสตัลบูลแม้ไม่ใช่เมืองหลวงแต่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เมืองเก่าแก่ ดินแดนเชื่อมต่อของ 2 ทวีป 

ที่นี่สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะ ที่ช๊อปปิ้งก็แยะ แถมยังมีที่ชิลๆ ให้เดินเล่น จะอยู่คืนเดียวก็คงไม่พอ เราเลยต้องอยู่กันที่นี่ 2 คืน พักโรงแรมใจกลางย่านเมืองเก่า (แนะนำว่าถ้ามาอิสตัลบูล แล้ว ควรต้องพักโรงแรมกลางเมืองนะจ๊ะ เพราะยามราตรีของที่อิสตัลบูลแจ่มสุดๆ)

ต้องบอกว่าใครชอบช๊อปปิ้ง ใครชอบศิลปะ ใครชอบประวัติศาสตร์ ใครชอบนั่งชิวจิบกาแฟ หรือใครชอบทั้งหมดที่พูดมา ในทริปนี้ของเรามีพร้อมเลยค่ะ

ทั้งล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส เยี่ยมชมพระราชวังต่างๆ เข้ามหาวิหารบลูโมสก์ เซ็นต์โซเฟีย พาเดินช๊อปปิ้ง 2ตลาดเก่า เดินชิลย่านวัยรุ่นสุดคึกคัก 

ทานข้าวบนหอคอยที่คนที่นี่จัดให้เป็นสถานที่สุดโรแมนติก นั้นรถแทรมเที่ยวแบบคนโลคอล อะไรแบบนี้

ถ้ามาอิสตัลบูลแล้ว ไม่ได้สัมผัสกับวิถีเมืองของตุรกีก็คงจะน่าเสียดาย ย่านทักซิม หรือถนนที่เรียกว่า Istiklal Street เป็นถนนที่คนมหาศาลล้านแปดทั้งชาวพื้นเมือง และนักท่องเที่ยว ตรงนี้เป็นเหมือนหัวใจของอิสตัลบูล เพราะมีทั้งร้านอาหารดัง ร้านขนมขึ้นชื่อ โรงภาพยนตร์ ร้านเสื้อผ้าแบรด์ดัง และแบรนด์พื้นเมืองมากมาย ( ขอบอกว่า ZARA ที่ตุรกีถูกกว่าเมืองไทยมั่กมากกก สาวกZARA ไม่ควรพลาดนะจ๊ะพูดเลอ) 

ทริปนี้เรามีเวลาให้เดินเล่นกันชิลๆ อยากเข้าร้ายไหนก็ตามสบายเลยค่ะ และที่สำคัญจะมีรถรางสีแดงวิ่งให้บริการฟรีตลอดเส้น ใครอยากขึ้น ก็ขึ้นได้เลย

 

หอคอยกาลาต้า เห็นเด่นแต่ไกล ต้องมีเวลาจริงถึงได้ขึ้นเพราะต่อแถวนานมากคนส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นไปบนนั้น

แต่มากับ HOP Holidays เราพาคุณลัดคิว สบับบ๊อบขึ้นไปทานข้าวข้างบนแบบสวยๆ ทานข้าวไป ชมวิวไป เห็นอีสตัลบูลแบบ 360 องศากันไปเลย ข้างบนนี้จะเห็นทั้งพระราชวัง บลูโมสก์ วิหารเซ็นต์โซเฟีย และวิวเมืองอีสตัลบูลในมุมที่สวยมากๆ

ปล. ที่นี่เราไม่ต้องต่อคิวยาวให้เสียเวลา เพราะเราจองคิว VIP ขึ้นไปทานอาหารข้างบนให้แล้วจร้าาา

สำหรับสายศิลปะ และประวัติศาสตร์ เราได้เดินชมโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ ในย่านสุลตาลอะเหม็ด ทั้งบลูโมสก์ วิหารเซ็นต์โซเฟีย ฮิปโปโดรม อ่างเก็บน้ำใต้ดิน และพระราชวังต่างๆ แต่ละที่ก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคโรมัน คอนแสตนติน ออตโมมัน มาจาถึงปัจจุบัน  

หอนาฬิกา หน้า พระราชวังโดลมาบาเช่

มุมหนึ่งในพระราชวังทอปปกาปึ

ภายในมหาวิหารเซ็นต์โซเฟีย

ข้างในมัสยิดสีฟ้า (รูปนี้เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ที่นี้เค้าปิดซ่อมแซม ก็จะมีบางมุมที่เค้าปิด )

ทริปนี้เราได้ซ๊อปปิ้งกันทั้ง 2 ตลาดสำคัญ คือ ตลาด Spice Market และ Grand Bazaar ตลาดพื้นเมืองที่เปิดค้าขายมากว่าร้อยปี จะมีข้าวของ เครื่องใช้ ของฝาก เครื่องเทศ อินทผาลัม ลูกมะเดื่อ น้ำผึ้ง ขายในราคาที่ไม่แพง เพราะเป็นตลาดที่คนพื้นเมืองกมาเดินเลือกซื้อของกันค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ โปรแกรมของเราเป็นโปรแกรม 5 ดาว ทั้งที่พัก ที่กิน การเดินทางท่องเที่ยว

โรงแรมที่พักแต่ละเมือง เราเลือกแต่โรงแรมจากโลเคชั่นที่ดี บรรยากาศเลิศ อย่างคัปปาโดเกีย เราพักโรงแรมถ้ำแบบ 5 ดาว ที่รายล้อมไปร้านเก๋ๆชิคๆ ให้ไปเช็คอินกับในยามราตรี ถ้าโชคดีตื่นมาได้ถ่ายรูปกับบอลลูนเต็มท้องฟ้า

ที่อิสตันบูล เราเลือกพักโรงแรมย่านเมืองเก่าเพราะทำให้ได้อรรถรสมากกว่าเยอะ ย่านนี้มีตึก มีมัสยิดจากยุคออตโตมันสวยๆ ตั้งสลับกับร้านอาหารท้องถิ่น ร้านกาแฟ ผับ ได้เห็นวิถีคนเมือง เราขอบอกเลยว่าอิสตัลบูลไม่ควรพักโรงแรมที่อยู่ไกลๆ เพราะยามราตรีที่อิสตัลบูลมีสีสันมากกก

เรื่องร้านอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่เราใส่ใจ หลายๆ ร้านที่เราเลือกเป็นร้านบรรยากาศดี๊ดีระดับ Trip Adviser แนะนำ อย่างไปทานมื้อหรูบนหอคอยกาลาตาร์ หรือดินเนอร์ที่ Seven Hills ร้านดังวิว 2 มหาวิหาร (ใครไม่พาไป เราพาไปเองค่ะ)

ที่สำคัญ โปรแกรมของเราไม่อัดแน่นจนต้องชะโงกทัวร์ มีเวลาชิลๆ ให้เพื่อนๆได้เดินเล่น ช๊อปปิ้งตามใจ ตามสไตล์ของแต่ละคนเลยค่ะ ถ้าสนใจไปกับเราก็ติดต่อเข้ามาได้เลย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้